[Fundamental Data Analytics & Data Scientist EP.11] Tableau อีกหนึ่งสุดยอดโปรแกรม Visualization
หลังจากครั้งที่แล้ว เราก็ได้แนะนำ Visualization Tools อย่าง Power BI ไปแล้ว วันนี้มาถึงคิวของ Tableau กันบ้างครับ…ถ้าหากใครยังไม่ได้อ่านบทความที่แล้วเกี่ยวกับการใช้งาน Power BI ก็สามารถเข้าไปอ่านในลิ้งค์ด้านล่างเลยครับ
Tableau คืออะไร?
มันก็คือ Visualization Tools อีกโปรแกรมที่มีหน้าที่เหมือนกันกับ Power BI นั้นก็คือการทำ Dashboard และการแสดงภาพเพื่อนำเสนอ หรือที่เรียกว่า Business Intelligent 📊 ครับ
วิธีการติดตั้งโปรแกรม Tableau Public
โดยสายฟรีอย่างเราจะมี 2 โปรแกรมให้เลือกใช้นะครับนั้นคือ Tableau Desktop (Free Trial) และ Tableau Public ครับ โดย Tableau Desktop จะมีฟีเจอร์ในการใช้งานเยอะกว่า และสามารถบันทึกไฟล์เป็น Tableau Workbook ได้ แต่เราสามารถทดลองใช้ได้ในเวลาที่จำกัดเท่านั้น ดังนั้นผมจึงใช้เป็น Tableau Public แทนซึ่งเป็นตัวที่ใช้ได้ไม่จำกัดเวลา แต่ไม่สามารถบันทึกไฟล์Tableau Workbook ได้ ทำได้เพียง Upload File ขึ้นกับ Tableau Server ของเขาเท่านั้นครับ
การติดตั้ง Tableau Public ก็ทำได้โดยเข้าไปที่ลิ้งค์ด้านล่างแล้วกด DOWNLOAD THE APP และติดตั้งให้เรียบร้อยก็สามารถใช้งานได้แล้วครับ😁
เข้าไปโหลดไฟล์ใน Link นี้ — https://public.tableau.com/en-us/s/
ข้อมูลที่ใช้
ข้อมูลที่ใช้ในครั้งนี้มาจาก Kaggle เรื่อง Income Classification เป็นการประเมินผลและแบ่งกลุ่มผู้มีรายได้ออกเป็นสองกลุ่ม (ต่ำกว่า 50,000 และมากกว่า 50,000)
ถ้าทุกอย่างพร้อมแล้ว…ก็มาเริ่มกันเลย
เนื่องจากว่าทุกคนน่าจะพอเข้าใจ Concept ของ Visualization Tools มาจาก Blog แนะนำการใช้งาน Power BI กันไปแล้ว ดังนั้นรอบนี้ผมจะอธิบายอย่างรวดเร็วเลยนะครับ
เมื่อเข้ามาในโปรแกรม Tableau Public แล้ว ขั้นตอนแรกที่เราจะต้องทำก็คือการเชื่อมต่อข้อมูลนั้นเอง ข้อมูลที่เราโหลดมานั้นเป็นสกุล .csv เราก็จะเชื่อมต่อข้อมูลด้วย Text file แล้วเลือกที่ไฟล์ที่เราโหลดมาครับ
เมื่อเชื่อมต่อเสร็จแล้ว เราก็สามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปสร้าง Chart กัน ซึ่งเราก็ทำตามคำแนะนำของ Tableau “Go to Worksheet” ด้วยการเข้าไปที่ Worksheet ที่ชื่อ Sheet 1 ได้เลย
เมื่อเข้ามาในหน้า Worksheet แล้ว องค์ประกอบคร่าวๆของ Worksheet Tableau โดยผมจะเน้นข้อความเพื่อแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของหน้า Worksheet Tableau และ Power BI ด้วย
- เป็นส่วนของคำสั่ง แต่ในส่วนนี้จะมีความละเอียดมากกว่าของ Power BI เช่น จัดเรียงข้อมูล แปลงข้อมูล เพิ่ม Total Column เป็นต้น
- Worksheet ไว้สำหรับการใส่ Chart แต่ในโปรแกรม Tableau จะไม่อนุญาติให้เราสร้าง Dashboard ใน Worksheet ได้ ถ้าจะทำ Dashboard ต้องสร้างหน้า Dashboard แยกออกมา
- Field มีไว้สำหรับการเลือกข้อมูล(ที่เรานำเข้ามาใน Power BI) มาแสดงในรูปของ Chart และใช้ฟังก์ชั่นในการจัดการข้อมูลใน Field ได้ด้วย เช่น Measure, Dimension เป็นต้น
โดยความแตกต่างหลักของ Tableau กับ Power BI คือ Tableau จะเป็นการเลือกตัวแปรไปสร้างเป็น Rows & Columns ในขณะที่ Power BI จะเป็น Axis & Values ซึ่งผมจะอธิบายในส่วนถัดไปว่ามันทำงานยังไง
tip✔️: แน่นอนว่าเราสามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลในภายหลังได้ แต่จะต้องเข้าไปเปลี่ยนในไฟล์นั้นๆแทน (เพราะไม่มี Power Query Editor ให้แก้ไขข้อมูลโดยตรง) เช่น ในกรณีนี้ผมต้องการเพิ่ม ID เข้าไปเพื่อให้รู้จำนวนคนทั้งหมดที่เก็บข้อมูลมา เมื่อแก้ไขเสร็จและ save file แล้วกลับเข้าไปและ คลิ๊กขวาที่ตัวถังข้อมูลในแถบ Data และกด Refresh เท่านี้ก็จะได้ข้อมูลใหม่แล้วครับ
สร้าง Chart แรกกัน
ขั้นตอนการสร้าง Chart ของ Tableau นั้นก็ง่ายไม่ต่างกันกับ Power BI เลย ด้วยการนำข้อมูลที่เราต้องการจะแสดงลากไปที่ Rows หากต้องการให้ข้อมูลถูกแสดงในรูปแนวนอน และ Columns สำหรับแนวตั้ง และหากต้องการให้ Chart นั้นแสดงค่าออกมาก็นำค่าที่เราต้องการจะแสดงไปใส่ใน Text ที่แถบ Marks
ดังตัวอย่าง ผมต้องการแสดงสัดส่วนของระดับการศึกษาของผู้ถูกสำรวจจากทั้งหมด … คน ผมก็จะนำระดับการศึกษา (education) ไปใส่ไว้ใน Columns และนำจำนวนคนทั้งหมดที่ไม่ซ้ำกันนั้นคือ Count Distinct ของ ID (CNTD(ID)) ไปไว้ใน Rows และนำ CNTD(ID) ไปใส่ไว้ใน Text หรือคลิ๊กที่ Show Mark Labels ตรงเมนูด้านบนก็ได้ครับ
ทำไมต้อง Rows & Columns หล่ะ?
ผมขอย้ำอีกครั้งแล้วกันนะครับว่า Rows คือการให้ข้อมูลถูกแสดงในรูปแนวนอน และ Columns สำหรับแนวตั้ง นั้นทำให้ Tableau สามารถสร้าง Chart ที่มีความซับซ้อนได้มากกว่า Power BI ครับ เนื่องจากหลายๆ Chart ของ Power BI นั้นสามารถใส่ได้แค่ Axis เดียว ดังนั้นมิติของการแสดงค่าจะน้อยกว่าของ Tableau โดยดูจากตารางตัวอย่างต่อไปนี้ครับ
สมมติว่าผมอยากจะแบ่ง“เพศ (sex) ไปพร้อมกันกับระดับการศึกษา (education) ด้วย” ถ้าเป็น Tableau ผมก็แค่เพิ่ม sex เข้าไปใน Rows ก็สามารถแบ่งเพศได้อย่างชัดเจน แต่ในขณะที่ Power BI ถ้าเราใส่ sex เพิ่มใน Axis โปรแกรมจะโชว์ข้อมูลออกมาทั้งหมด(เช่น เพศชายปริญญาตรี, เพศหญิงปริญญาตรี, …)โดยไม่มีการแบ่งส่วน Row/Column อย่างชัดเจน โดยท่านอาจจะต้องไปสร้างกราฟแยก Filter หรือไปหา Plugin Chart มาใช้แทน นี้จึงเป็นหนึ่งในข้อดีจากความซับซ้อนของ Tableau ครับ
tip✔️: เราสามารถจัดเรียงข้อมูลตามที่เราต้องการได้ด้วยการคลิ๊กขวาที่ชื่อตัวแปรที่เราอยากจะเรียงข้อมูล และกด Sort
เมื่อเข้าไปในหน้า Sort แล้ว Tableau ก็จะมีตัวเลือกให้เราจัดเรียงข้อมูลอยู่มากมาย เราก็สามารถปรับค่าได้ตามต้องการเลยครับ (ขอไม่ลงรายละเอียดเกี่ยวกับการ Sort ข้อมูลนะครับ Option มีเยอะมาก😅)
อย่างตัวอย่างดังกล่าวผมต้องการจะเรียงข้อมูลตามระดับการศึกษาจาก น้อยไปมาก (ก่อนวัยเรียน[Preschool]-ปริญญาเอก[Doctorate]) ก็สามารถปรับตามผมได้ดังนี้เลยครับ
ต่อไปก็จะเป็นตัวอย่างการสร้าง Pie Chart และ Chart อื่นๆใน Tableau นะครับ โดยผมจะทำเป็นวิดีโอ รูป โดยไม่มีคำอธิบายเพื่อให้ทุกท่านเข้าใจ Concept และ Pattern ของการสร้างกราฟใน Tableau นะครับ โดยใครสนใจหรือมีไอเดียอื่นๆในการสร้างกราฟก็สามารถลองสร้างดูได้เลย เพราะเดี๋ยวเราจะประกอบร่างกราฟเหล่านี้ในหน้า Dashboard กัน😉
tip✔️: เราสามารถตกแต่งกราฟนั้นได้ด้วยการคลิ๊กขวาที่ Chart และกด Format โปรแกรมจะแสดงแถบทางด้านซ้ายมือขึ้นมานั้นคือ Format Tab ทำให้เราสามารถปรับแต่งกราฟได้ตามต้องการ (Format ได้ละเอียดกว่า Power BI มากๆ😝)
การสร้าง Dashboard ใน Tableau
เราสามารถสร้างได้โดยการคลิ๊กที่ New Dashboard ด้านล่างของ Worksheet โปรแกรมจะสร้างหน้า Dashboard ที่เป็นหน้าว่างๆขึ้นมา โดยเราจะต้องนำกราฟต่างๆที่อยู่ในแต่ละ Sheet มาใส่ซึ่งทำได้โดยการเลือกกราฟในแถบ Sheets ที่อยู่ทางซ้ายมือ แล้วลากเข้ามาใน Dashboard อีกทั้งเรายังสามารถใส่ข้อความหรือรูปได้ในแถบ Objects ด้วย และจัดแต่งให้สวยงามตามใจชอบเลยครับ อันนี้จะเป็นตัวอย่างการจัดหน้า Dashboard ของผมครับ
สุดท้ายคือขั้นตอนการ Publish ลง Tableau Public Website
ขั้นตอนสุดท้ายคือการบันทึกข้อมูลลง Tableau Public Website เนื่องจาก Tableau Public Version ไม่สามารถให้เราบันทึกเป็นไฟล์ได้ เราจึงต้องส่ง Dashboard ของเราไปยัง Tableau Server ของเขา โดยเราก็สามารถทำได้ด้วยการกดไปที่ File -> save to Tableau Public as และระบบจะให้เราใส่ชื่องาน เมื่อกด Save แล้วระบบก็จะให้เราใส่ Username/Password ของ Tableau ซึ่งเราก็ต้องไปทำการสมัครก่อนในการบันทึกครั้งแรกนั้นเอง
เมื่อทำการสมัครและ Login เสร็จแล้ว เราก็ต้องรอสักพักเพื่อให้ข้อมูลถูกส่งไปยัง Tableau Server เมื่อเสร็จแล้วเราก็สามารถเข้าไปเช็คงานของเราได้ที่ Website Tableau Public และกด Sign In เมื่อกรอกข้อมูลครบแล้ว เขาจะพาเรามาในหน้านี้ซึ่งเป็นที่ๆเก็บ Dashboard ของเราไว้นั้นเอง เราก็สามารถกดเข้าไปดูผลงานของตัวเองได้เลย👏🏻👏🏻
Power BI VS Tableau?
โดยสรุปในมุมมองของผมที่เป็นผู้ใช้งานโปรแกรม Business Intelligent ทั้งสองอันมาแล้วต้องบอกว่า Tableau นั้นมีข้อดีคือเป็นโปรแกรมที่มีความซับซ้อนในการใช้งาน แต่นั่นทำให้มันมีความหลากหลายในการออกแบบ/ใช้งานมากกว่า ส่วน Power BI เองก็มีข้อดีคือความง่ายของมัน ตั้งแต่การสร้างกราฟ และการจัดการข้อมูลที่สามารถทำได้ทั้งหมดในโปรแกรมเดียวเลย
ถ้าชอบหรือต้องการสอบถามหรือพูดคุยเพิ่มเติม กดไปที่เพจ ดาต้าไส้แห้ง หรือ LinkedIn ข้างล่างเลยจ้า แล้วเรื่องถัดไปจะเป็นเรื่องอะไรก็ขอให้กดติดตามกันไว้ด้วยนะคร้าบ😍